ระบบควบคุมคุณภาพและปลอดภัยจากศูนย์ติดตั้งแก๊ส VRP

อุ่นใจในระบบควบคุมคุณภาพและความปลอดภัยของศูนย์ติดตั้งแก๊ส VRP

รถยนต์ทุกยี่ห้อติตตั้งระบบแก๊ส NGV/LPG จะมีการควบคุมคุณภาพตามหลักวิศวกรรมทั้ง 7 ประการนั้นคือ

·         ประสิทธิภาพของอุปกรณ์ เราใช้อุปกรณ์ในการติดตั้งที่ได้มาตรฐานและมีคุณภาพจาก Romano ประเทศอิตาลี มาการใช้งานมายาวนานทั่วโลกกว่า 30 ปี ในประเทศ 8 ปี

·         มาตรฐานในการติดตั้ง การติดตั้งจะต้องมีการตรวจสอบคุณภาพและความปลอดภัยเชิงป้องกันมีทั้งหมด 5 ขั้นตอน ทั้งก่อนการติดตั้ง ระหว่างการติดตั้ง หลังการติดตั้ง และก่อนจะส่งมอบให้ลูกค้า

·         มาตรฐานบุคลากร ช่างทุกคนจะต้องผ่านการฝึกอบรมจากกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และการฝึกอบรมโดยตรงจากศูนย์ VRP มีประสบการณ์ในการติดตั้งมายาวนาน

·         มาตรฐานและความต่อเนื่องของการซ่อมบำรุง มั่นใจอุ่นใจได้กับการบริการหลังการติดตั้ง มีเครือข่ายการซ่อมบำรุงโดยช่างเทคนิคของVRP ทั่วทุกภูมิภาค

·         ประสิทธิภาพความคงทนของเครื่องยนต์ใช้ NGV/LPG ระบบการติดตั้งของ VRP ผ่านการทดสอบจริงที่ 100,000 กม. ใช้ Fitting แบบ Double Lock ปลอดภัยไร้รอยรั่วของแก๊สได้ 100%

·         รับประกันเครื่องยนต์ มีการรับประกันเครื่องยนต์ 3 ปี หรือ 100,000 กม. อุปกรณ์จับยึดถัง 5 ปี หรือ 200,000 รวมถึงสามารถเข้าซ่อมบำรุงได้ที่ศูนย์โตโยต้า 40 จังหวัดทั่วประเทศ หรือ 250 โชว์รูม

·         การบริการซ่อมบำรุงหลังการติดตั้ง เรามีคู่มือการตรวจเช็คสภาพของอุปกรณ์ และเครื่องยนต์ทุกๆ 10,000 กม. มีบริการซ่อมบำรุงและตรวจสอบระบบ NGV/ LPG แแบบ On site service

 

  

มาตรฐานอุปกรณ์ NGV / LPG ที่ VRP เลือกใช้

ในตลาดการรับติดตั้งแก๊สนั้น ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเพียงการนำเข้าอุปกรณ์ติดตั้งแก๊สมาจำหน่ายให้กับอู่ทั่วไปเท่านั้น ยังไม่มีผู้นำเข้ารายใดที่จะให้บริการได้อย่างครอบคลุมทั้งระบบการติดตั้ง ซึ่งในประเทศไทยมีเพียงบริษัท VRP Engineering เท่านั้น ที่ให้บริการครบวงจรการติดแก๊สรถยนต์ นับจากการนำเข้าอุปกรณ์ การจัดเตรียมบุคลากรที่มีประสิทธิภาพ การควบคุมคุณการติดตั้ง การควบคุมมาตรฐานความปลอดภัย และการบริการหลังการขายที่มีเครือข่ายทั่วประเทศ

Romano อุปกรณ์ติดตั้งแก๊สระดับโลก จากประเทศอิตาลี

ส่วนใหญ่แทบทุกๆคนจะรู้สึกว่าอุปกรณ์แก็ส NGV ของประเทศอิตาลี ยังดีที่สุด เพราะเป็นประเทศแรกๆ ที่มีการนำก๊าซ NGV มาใช้กับรถยนต์ หลังจากนั้นก็มีประเทศอื่นๆ นำอุปกรณ์ของอิตาลีไปเป็นต้นแบบในการผลิตอุปกรณ์ของตัวเอง และอุปกรณ์จาก Romano ประเทศอิตาลี ก็เป็นอุปกรณ์ที่ VRP เลือกใช้ เนื่องจากมีการใช้งานทั่วโลกมาแล้วกว่า 30 ปี และมีการใช้ภายในประเทศไทยมาแล้วประมาณ 8 ปี จึงเป็นอุปกรณ์ที่มีมาตรฐานและคุณภาพที่ท่านมั่นใจในประสิทธิภาพและความปลอดภัยได้ดี



1. อุปกรณ์ควบคุมการจ่ายก๊าซ NGV/LPG (Electronic Control Unit- ECU)

เป็นวัสดุที่ผลิตมาจากไฟเบอร์ ได้มาตรฐาน ECER 110/R67/R010 ทำหน้าที่เป็นตัวควบคุมการกระจายเชื้อเพลิงให้กับเครื่องยนต์ โดยทำงานตามคำสั่งจากโปรแกรมมาตรฐานระดับโลก AEB
มาตรฐานอุปกรณ์ VRP มีเทคโนโลยี Advance Auto Model แห่งเดียวของประเทศ ปรับจูนการจ่ายก๊าซแบบอัตโนมัติตามค่ามาตรฐานของน้ำมัน ทำให้แรงม้า/แรงบิดเทียบเท่าน้ำมัน พร้อมหัวฉีดแบบ Single ติดตั้งที่ท่อไอดี ทำให้จ่ายก๊าซได้เร็ว (ทั่วไปมักจะใช้แบบราง) ตอบสนองดีกว่ารวมถึง Fitting แบบ Double Lock ป้องกันรั่วซึมได้ 100% จึงมีความปลอดภัยสูงสุด



2. ระบบหัวฉีดก๊าซ Single Fiber
หัวฉีดแบบ Single Fiber แห่งเดียวของประเทศ ตอบสนองต่อการสั่งเชื้อเพลิงอย่างรวดเร็ว และสม่ำเสมอไม่สะสมความร้อน จึงทำให้มีความปลอดภัยสูงสุด



3. ระบบสายไฟ
ใช้ระบบสายไฟแแบบ Plug in (ไม่มีการเชื่อมต่อ หรือตัดต่อ) ป้องกันอันตรายจากประกายไฟลัดวงจร



4. ท่อส่งก๊าซสแตนเลสไร้สนิมพร้อมข้อต่อ (Fitting) แบบ Double Lock สำหรับระบบ NGV
Fitting ผลิตจากสแตนเลสไร้สนิม แบบ Double Lock ป้องกันก๊าซรั่วซึม 100% ปลอดภัยสูงสุด



5. อุปกรณ์ปรับแรงดัน (Regulator)
แบบอุปกรณ์ 2 Step สิขสิทธิ์เฉพาะ Romano ให้ค่าแรงดันการจ่ายก๊าซสูงสุด ทำให้การจ่ายก๊าซรวดเร็วและมีปริมาณเหมาะสมสม่ำเสมอในทุกรอบการขับขี่

สิ่งที่ผู้คิดจะติดตั้งแก๊สควรตระหนัก
ในความเป็นจริงถึงแม้ว่า จะมีการโฆษณาถึงประสิทธิภาพของอุปกรณ์จะดีแค่ไหน แต่ถ้าเจอช่างติดตั้งที่ไม่การผึกหัดมาก่อนสำหรับระบบติดตั้งแก๊ส อุปกรณ์ระดับโลก ก็เป็นแค่เพียงอะไหล่ธรรมดาที่ไม่มีค่า มีราคาอะไร ขอแนะนำ ให้ท่านที่จะติดแก๊ส นำรถของท่านไปติดตั้งกับศูนย์ บริษัท ที่มีประสบการณ์ในการติดตั้งจะดีกว่ามาก ยิ่งมากยิ่งนาน ยิ่งดี เพราะศูนย์เหล่านี้จะรับประกันให้ท่านทั้งระบบ และมีการบริการหลังการติดตั้งที่ดีอีกด้วย

ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับแก๊ส LPG

สาระน่ารู้เกี่ยวกับแก๊ส LPG

สำหรับการนำแก๊ส LPG มาใช้ในประเทศไทยเป็นพลังงานในรถยนต์ในปี พ.ศ. 2513 หรือ (36ปี) แต่ ได้รับความนิยมอยู่ในเฉพาะกลุ่มรถยนต์สาธารณะ เช่นรถแท็กซี่ ในอดีตรถยนต์ส่วนบุคคลไม่นิยมที่จะติดตั้งแก๊สนั้นอาจจะเป็นเพราะรถติดแก๊สจะมีปัญหาเรื่องกลิ่นเหม็น และกลัวในเรื่องความไม่ปลอดภัย การใช้อุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน นอกจากนี้ยังรวมถึงการขาดความชำนาญในการติดตั้งของช่าง
ส่วนปัจจุบันความนิยมที่รถยนต์ส่วนบุคคล ได้เปลี่ยนมาใช้พลังงานก๊าซธรรมชาติกันมากขึ้น สาเหตุเป็นเพราะว่าค่าน้ำมันที่แพงขึ้นอย่างต่อเนื่องนั่นเอง และมีศูนย์ติดตั้งที่มีมาตรฐาน ใช้อุปกรณ์ที่มีความปลอดภัยได้มาตรฐาน พร้อมกับมีช่างที่ชำนาญในการติดตั้ง
 

ผลกระทบที่มีต่อเครื่องยนต์เมื่อติดตั้งแก๊ส LPG

การเผาไหม้ของแก๊ส LPG มีค่าความร้อนสูงประมาณ 400 c˚ ความร้อนเหล่านี้จะทำให้ชิ้นส่วนของบ่าวาล์วนิ่มและอ่อนตัวลง ส่งผลให้เกิดการสึกหรอ ไอดีของก๊าซมีลักษณะเป็นไอแห้ง และไม่มีสารเคลือบบ่าวาล์ว ทำให้เกิดการสึกหรอจากการปิด-เปิดของวาล์ว และชิ้นส่วนต่างๆของเครื่องยนต์ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้รองรับค่าความร้อนสูงของแก๊สต่างๆ ดังนั้นจังทำให้เครื่องยนต์ที่ถูกดัดแปลงมาใช้พลังงานแก๊สธรรมชาติเกิดการสึกหรออย่างรวดเร็ว (100,000 กิโลเมตรขึ้นไป)
 

น้ำมันเครื่อง 2T สามารถบำรุงรักษาเครื่องยนต์ติดตั้งแก๊ส LPG ได้หรือไม่

ในอดีตมีการใช้น้ำมันเครื่อง 2T สำหรับมอเตอร์ไซด์สองจังหวะมาใช้เพื่อแก้ปัญหาการสึกหรอของบ่าวาล์วซึ่งก็ได้ผลเพียงระยะสั้นๆเท่านั้น เพราะถ้าใช้ต่อเนื่องไปเป็นเวลานานๆ ก็จะส่งผลให้เกิดการสะสมเขม่า หรือการอุดตัน หัวเทียนบอดและอื่นๆตามมา นอกจากนี้เครื่องยนต์เกิดความเสียหายมากขึ้นตั้งแต่บ่าวาล์วรั่ว หัวลูกสูบทะลุจนถึงขั้นอาจจะต้องผ่าเครื่องซ่อมกันใหม่
ในต่างประเทศเครื่องยนต์ที่มีการดัดแปลงเพื่อใช้ก๊าซแทนน้ำมัน จะห้ามไม่ให้ใช้น้ำมันเครื่อง 2 จังหวะมาใช้เพื่อหล่อลื่น หรือบำรุงเครื่องยนต์ นอกจากจะส่งผลเสียเครื่องยนต์อย่างที่กล่าวไปแล้ว ยังส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมในด้านของมลภาวะ และควันดำ และในปัจจุบันนี้มอเตอร์ไซด์ 2 จังหวะก็เริ่มที่จะยกเลิกการผลิตไปแล้ว

วิธีการรักษาเครื่องยนต์เบื้องต้นสำหรับรถที่ติดแก๊ส LPG

อย่างไรก็ดี วิธีการลดการสึกหรอของบ่าวาล์วเบื้องต้นนั้นผู้ขับหรือเจ้าของรถที่ติดแก๊ส LPG ก็สามารถปฏิบัติเองได้ นั้นคือการไม่ขับรถเร็วจนเกินไป โดยเฉพาะในเวลาที่อากาศร้อน และเดินทางไกล โดยไม่มีการพักเครื่อง ดังนั้นควรมีการพักเครื่องบ้างเมื่อใช้งานไปประมาณ 2-3 ชั่วโมง และหมั่นดูแลระบบระบายความร้อน และระบบหล่อเย็น, พัดลมให้อยู่ในสภาพดีไม่อุดตัน ควรใช้น้ำมันเครื่องที่มีเบอร์ความหนืดที่สูง (SAE) และใช้น้ำมันที่มีคุณสมบัติเฉพาะซึ่งผู้ผลิตได้มีการศึกษาถึงคุณสมบัติที่ใช้งานโดยเฉพาะ แก้ปัญหาของการสึกหรอบ่าวาล์วได้โดยตรง
เพียงเท่านี้การติดตั้งแก๊ส LPG ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับคุณอีกต่อไป การเลือกติดตั้งนอกจากจะสะดวกในการหาปั๊มเติมแก๊สแล้ว ยังช่วยให้คุณเงินได้อีกประมาณ 50% หากเทียบจากการเติมน้ำมันปกติ
การติดตั้งควรเลือกศูนย์ติดตั้งที่ได้รับมาตรฐาน และได้รับการรับรองโดยกรมขนส่งเพื่อคุณภาพที่ดีและความปลอดภัยตลอดอายุการใช้งานของคุณ

สาระน่ารู้เกี่ยวกับถังบรรจุแก๊ส NGV

ถังบรรจุแก๊ส NGV เป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นมากในการติดตั้งแก๊ส เป็นสิ่งที่ใช้เก็บแก๊สเชื้อเพลิงสำหรับรถยนต์ของเราและเป็นอุปกรณ์ที่ผู้ติดตั้งไม่ควรจะมองข้าม และควรจะศึกษาไว้บ้างเพื่อสอบถามกับศูนย์ติดตั้งแก๊สหรืออู่ที่ท่านไปใช้บริการในการติดตั้้ง การที่ใช้ถังที่มีคุณภาพและมาตรฐาน แข็งแรงและทนทานต่อแรงดันแรงอัดของแก๊ส รวมถึงการทดสอบคุณภาพของถัง ก็จะทำให้คุณมั่นใจถึงความปลอดภัยในเวลาใช้งานได้ในระดับหนึ่งทีเดียว

ถังบรรจุแก๊ส NGV แบ่งออกเป็น 4 ประเภท

1.       เหล็ก

2.       เหล็กหรืออลูมินั่มและไฟเบอร์

3.       เหล็กหรืออลูมินั่มและไฟเบอร์(บางกว่า)

4.       ไฟเบอร์ผสม

คุณสมบัติทั่วไปของถังบรรจุแก๊ส NGV ธรรมชาติอัด

• มีน้ำหนักเบา
• มีการตรวจสอบและทดสอบการออกแบบ
• จะต้องมีการทดสอบแบบไม่ทําลายถังบรรจุแก๊สทุกถังที่ผลิต
• ต้องทดสอบตัวอย่างถังแบบทําลายในแต่ละรุ่นของการผลิต
• ผู้ผลิตจะต้องมีหลักฐานการควบคุมคุณภาพการผลิต
• ในระหว่างใช้งานจะต้องมีการทดสอบเป็นระยะตามที่ผู้ผลิตถังแนะนํา
• ต้องระบุอายุการใช้งานที่ผู้ผลิตออกแบบ
• มีอายุการใช้งานออกแบบที่เกินจากที่ใช้จริง สามารถเติมแก๊สได้ในอัตราปีละ 1000 ครั้ง อย่างน้อย 15,000 ครั้ง แต่มีอายุไม่เกิน 20 ปี
• เมื่อทดสอบความล้า ถังจะต้องไม่แตกแบบระเบิดก่อนการรั่ว

คุณสมบัติที่สําคัญของถังบรรจุแก๊ส NGV

• หากทนความดันไม่ได้แก๊สจะต้องรั่วโดยไม่มีการระเบิด
• ออกแบบใหญ่ทนความดันได้อย่างน้อย 450 บาร์
• สามารถรับความดันได้ 300 บาร์ได้โดยไม่เสียรูปหรือเกิดการรั่วไหล
• สามารถรับการอัดแก๊สที่ 200 บาร์ ได้อย่างน้อย 1,000 ครั้งต่อปี เป็นเวลาอย่างน้อย 15 ปี (15,000 ครั้ง) โดยไม่มีการแตกหรือรั่วไหลของแก๊ส
• ตกจากที่สูง 1.80 เมตรได้โดยถังไม่เสียหาย (เทียบได้กับการถูกชนท้าย)
• เมื่อมีเพลิงไหม้จะต้องมีอุปกรณ์ปล่อยความดันแก๊สเพื่อไม่ให้ถังระเบิด

ซึ่งถังบรรจุแก๊ส NGV ที่ทางศูนย์ติดตั้งแก๊ส VRP เลือกใช้นั้น เป็นวัสดุที่ทำมาจากเหล็กเกรดพิเศษ มีความหนา 8 มิลลิเมตร เพื่อถังสามารถทนแรงดันได้ 250 บาร์ บริษัทใช้ถัง NGV ที่มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล ISO 11439 ซึ่งทั่วโลกยอมรับจากประเทศจีน ยี่ห้อ JINDUN / BANNER / NK เนื่องจากมี คุณสมบัติที่ดีคือ
- ถังได้การรับรองความปลอดภัยจาก บริษัท ปตท.
- ถังได้ผลิตตามมาตรฐานที่ทั่วโลกยอมรับ
- อายุการใช้งานของถัง 15 ปี

ควรจะติดตั้งแก๊สชนิดไหนดี

แล้วเราจะติดตั้งแก๊สอะไรดี?

นี่คงจะเป็นคำถามของเจ้าของรถยนต์ทั้งมือใหม่ และมือเก่า ที่คิดอยากจะประหยัดค่าใช้จ่ายจากค่าน้ำมันที่มีราคาสูงขึ้น แถมการจราจรในปัจจุบันต้องเพิ่มเวลาในการเดินทางมากขึ้นอย่างน้อย 1 ช.ม ทำให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่เผาผลาญอยู่บนท้องถนนขณะที่รถติดนั้นมีปริมาณที่สูงตามไปด้วย การติดตั้งแก๊สทำให้ท่านประหยัดเงินได้มากขึ้น แต่สำหรับผู้ที่กำลังจะคิดติดตั้งนั้น ยังจับต้นชนปลายไม่ถูกว่า จะเริ่มหาข้อมูลจากจุดไหน ไปจนถึงการเลือกศูนย์บริการ และการซ่อมบำรุงหลังจากติดตั้ง ซึ่งบทความนี้จะนำเสนอข้อมูลให้แก่ท่านที่ต้องการจะติดตั้งแก๊สว่าต้องตัดสินใจอย่างไรบ้าง

ก่อนอื่นต้องพิจารณาก่อนว่าจะใช้แก๊สประเภทใด NGV/LPG

ข้อมูลเรื่องแก๊สทั้งสองชนิดนี้มีมากมายและสามารถหาได้ตามเว็บไซต์ต่างๆทั่วไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นแก๊สทั้งสองชนิดคืออะไร ได้มาอย่างไร ดังนั้นเราก็จะขอสรุปความแตกต่างในกรณีอื่นๆเพื่อเป็นแนวทางในการพิจารณาของท่านเพิ่มเติม

ตารางเปรียบเทียบ NGV/LPG

ข้อเปรียบเทียบ	NGV	LPG
ด้านความปลอดภัย	มีความปลอดภัยสูงสุดเนื่องจากเบากว่าอากาศจึงลอยขึ้นบนชั้นบรรยากาศจึงไม่ติดไฟ	มีมวลที่หนักกว่าอากาศ สะสมบนพื้น จึงมีโอกาสลุกไหม้ติดไฟได้ง่าย
การเผาไหม้	มีการเผาไหม้ได้สมบูรณ์กว่าน้ำมัน จึงมีเขม่าน้อย และไม่สารตะกั่ว
อัตราการประหยัด	ประหยัดค่าใช้จ่าย 77% เมื่อเทียบกับน้ำมัน	ประหยัดค่าใช้จ่ายได้ 50% เมื่อเทียบกับน้ำมัน
นโยบายของรัฐบาลและราคาเชื้อเพลิงในอนาคต	สนับสนุนการใช้ NGV อยู่ที่ 14 บาท/Kg. ไม่มีนโยบายลอยตัวราคา	มีนโยบายปล่อยลอยตัวราคา LPG สูงสุดที่ 21 บาท/Lt.
จำนวนสถานี	500 สถานี้และกำลังขยายสถานีเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่องทั่วประเทศ	1,000 สถานีทั่วประเทศ
ประสิทธิภาพและอายุการใช้งาน	อายุการใช้งานเทียบเท่าเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันเมื่อมีการบำรุงรักษาตามคู่มือการใช้งานอย่างสม่ำเสมอ
ราคาปัจจุบัน	10.50 บาท/Kg	13 บาท/Lt.
ระยะทางที่วิ่งได้/kg.	1 Kg. = 10 Km	1 Lt. =  8 Km

จากตารางคุณอาจจะพอตัดสินใจได้คร่าวๆแล้วว่า ต้องการจะติดตั้งแก๊สชนิดใด ที่เหมาะสมกับงบประมาณของคุณได้มากที่สุด และที่สำคัญปลอดภัยที่สุด สำหรับท่านใดที่เป็นห่วงเรื่องติดตั้งแก๊สแล้วจะเสียอัตราเร่งหรือทำความเร็ว, แรงตก, รถอืด ทำความเร็วได้ไม่เท่ากับรถเติมน้ำมัน

เรื่องนี้หายห่วงไปได้เลย เมื่อติดตั้งแก๊สกับ VRP Engineering เรามีเทคโนโลยีอัจฉริยะ ECU ระบบ Advance Automode แห่งเดียวของประเทศซึ่งจะเป็นระบบประมวลผลการปรับจูนการสั่งจ่ายแก๊สแบบอัตโนมัติตามค่ามาตรฐานของน้ำมัน  ทำให้แรงม้า/แรงบิดที่ได้เทียบเท่ากับน้ำมัน พร้อมกับหัวฉีดแบบ Single ติดตั้งที่ท่อไอดี ทำให้จ่ายแก๊สเร็ว ตอบสนองได้ดีกว่า

หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ทำการเลียนแบบพฤติกรรมการขับขี่ระบบน้ำมันของผู้ขับ เพื่อนำมาปรับใช้กับระบบแก๊สภายในรถได้โดยอัตโนมัติจนผู้ขับไม่รู้สึกถึงความแตกต่าง หากคิดที่จะติดตั้งแก๊ส NGV/LPG เชิญติดต่อสอบถามได้ที่ VRP Engineering ได้ทุกวันเวลาทำการ

การเลือกศูนย์บริการติดตั้งแก๊ส NGV/LPG Part 2

เลือกศูนย์ที่มีมาตรฐานเพื่อคุณภาพและความปลอดภัยในการใช้งาน

การเลือกศูนย์ติดตั้งแก๊สที่ดีมีคุณภาพและมาตรฐานนั้น เป็นสิ่งที่ท่านควรจะใส่ใจและให้ความสำคัญเป็นอย่างมากเพราะการติดตั้งเพียงครั้งเดียวจากศูนย์ที่ไม่ได้มาตรฐานอาจจะก่อปัญหาจุกจิก หรือเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดได้ในอนาคต และอู่เหล่านั้นอาจจะหลีกเลี่ยงการรับประกันหรือรับผิดชอบในทุกกรณีที่เกิด ดังนั้นการเลือกที่ได้รับมาตรฐาน ทั้งคุณภาพและความปลอดภัย มีระบบการซ่อมบำรุงรักษาที่ต่อเนื่องและมั่นคง สิ่งเหล่านี้จะสร้างความสบายใจและความมั่นใจให้แก่ท่านตลอดอายุการใช้งาน คราวนี้จะขอเขียนข้อมูลที่เหลือสำหรับศูนย์ติดตั้งแก๊สที่ท่านควรจะเลือกพิจารณาก่อนการติดตั้งให้ครบถ้วน

4. เป็นศูนย์ติดตั้งแก๊สที่มุ่งเน้นเรื่องคุณภาพและความปลอดภัย
ควรพิจารณาศูนย์ติดตั้งที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพและความปลอดภัยในขณะที่ช่างกำลังติดตั้ง และตรวจสอบคุณภาพและความปลอดภัยอีกครั้งหลังที่ช่างติดตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นก่อนการติดตั้งแก๊ส ควรจะสอบถามในระบบความปลอดภัย หรือคุณภาพในการติดตั้งว่าทางศูนย์มีการตรวจสอบหรือมีช่างที่เชี่ยวชาญทำการตรวจสอบด้วยหรือไม่ บางศูนย์อาจจะมีการตรวจสอบนอกเหนือจากที่กล่าวมา คืออาจจะมีตรวจสอบและทดสอบแบบ Running Test เพื่อปรับเครื่องยนต์ในขณะใช้แก๊สให้มีแรงบิดและแรงม้าให้เทียบเท่ากับระบบน้ำมัน
ทั้งนี้ยังมีการตรวจสอบค่าส่วนผสมของเชื้อเพลิงแก๊สกับอากาศในอัตราส่วนที่เหมาะสมตามค่ามาตรฐานที่ 14.7:1 เพื่อทำให้การเผาไหม้สมบูรณ์มากที่สุด นอกจากนี้ยังจะต้องมีการตรวจเช็คคุณภาพจนมั่นใจอีกครั้งก่อนที่จะทำการส่งมอบรถให้แก่ลูกค้า

5. เป็นศูนย์ที่มีมาตรฐานในการตรวจเช็คสภาพ และการบำรุงรักษาหลังการติดตั้ง
ศูนย์ติดตั้งแก๊สที่ดีควรจะมีระบบการตรวจเช็คสภาพ และมีคู่มือเช็คระยะประสิทธิภาพเพื่อความปลอดภัยของระบบ NGV/LPG ทุกๆ 10,000 กิโลเมตร และมีการแจ้งระยะเวลาที่ควรจะซ่อมบำรุงเครื่องยนต์เสมอเช่น การเปลี่ยนหัวเทียนรถยนต์ทุกๆ 20,000 เปลี่ยนตัวกรองแก๊สทุกๆ 40,000 หรือมีการตรวจเช็ควาล์วน้ำทุกๆ 100,000 กิโลเมตร ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ให้พร้อมใช้งานได้สม่ำเสมอ และไม่ควรจะทำการปรับจูนเพิ่มค่าแก๊สให้แก่เครื่องยนต์ด้วยตนเองหรือช่างที่ไม่เชี่ยวชาญเด็ดขาด เพราะจะทำให้เครื่องยนต์มีการเผาไหม้ไม่เหมาะสมจนมีผลกระทบให้สึกหรอกว่าปกติ

6. การรับประกันเครื่องยนต์หรืออุปกรณ์ที่ติดตั้ง
ศูนย์ที่ดีควรจะมีการรับประกันเครื่องยนต์ระบบติดตั้งแก๊ส NGV/LPG ด้วย นอกเหนือไปจากการรับประกันอุปกรณ์ที่ใช้ในการติดตั้ง ศูนย์ที่มีมาตรฐานมีความเชี่ยวชาญในการติดตั้ง มีการตรวจเช็คคุณภาพและความปลอดภัยระหว่างและหลังการติดตั้ง มักจะมีการรับประกันเครื่องยนต์ด้วย จึงส่งผลให้บริษัทประกันภัยยอมรับประกันความเสียหายที่เกิดจากเครื่องยนต์ด้วย ซึ่งปกติโดยทั่วไปนั้นบริษัทประกันภัยจะรับประกันแค่อุปกรณ์การติดตั้งเท่านั้น แต่ไม่รับประกันถึงความเสียหายที่เกิดจากการติดตั้ง

ปัจจุบันการติดตั้งแก๊ส NGV/LPG ไม่ได้มีเพียงแค่อู่ธรรมดาทั่วไปที่รับอุปกรณ์จากบริษัทจำหน่ายอุปกรณ์ติดตั้งแก๊สมาติดตั้งให้แก่รถยนต์ลูกค้าของตนอีกต่อไปแล้ว ยังมีศูนย์ที่รับติดตั้งแก๊สรถยนต์โดยเฉพาะ ช่างได้รับการฝึกอบรมตามหลักสูตรของกรมฝีมือแรงงาน ทั้งยังมีมาตรฐานการติดตั้งตามหลักของวศิวกรรม 7 ประการ ได้รับการรับรองจากหน่วยงานของรัฐ 3 หน่วยงานได้แก่ ปตท. จำกัด (มหาชน), กรมการขนส่งทางบก และกระทรวงพลังงาน หากท่านสนใจจะติดตั้งแก๊สให้กับรถยนต์ของท่านด้วยช่างผู้เชี่ยวชาญ นอกจากนี้ท่านสามารถเข้าเช็คระยะได้ตามโชว์รูมของโตโยต้าได้อีกด้วย เชิญติดต่อได้ที่

VRP Engineer ศูนย์ติดตั้งแก๊สรถยนต์มาตรฐานดีเยี่ยม

ได้รับการรับรองและให้เป็นผู้ตรวจและทดสอบรถที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ(NGV) จากกรมการขนส่งทางบก

การเลือกศูนย์บริการติดตั้งแก๊ส NGV/LPG Part1

สิ่งสำคัญในการเลือกศูนย์บริการติดตั้งแก๊ส NGV/LPG

ก่อนที่จะนำรถยนต์สุดรักของคุณไปติดตั้งแก๊ส NGV/LPG สิ่งที่สำคัญที่ขาดไม่ได้คือ ศูนย์ไหนที่คุณควรจะนำรถไปใช้บริการ เพราะการติดตั้งแก๊สไม่ใช่การนำอุปกรณ์ต่างมาประกอบกัน เพื่อให้รถยนต์ของคุณสามารถจะใช้แก๊สได้เท่านั้น ยังมีปัจจัยอีกมากมายที่คุณควรจะพิจารณาก่อนที่จะตัดสินใจติดตั้ง

1. จะต้องเป็นศูนย์ติดตั้งที่มีมาตรฐาน
ศูนย์บริการดังกล่าวจะต้องได้รับการรับรองจากหน่วยงานรัฐบาลหรือเอกชนที่มีความน่าเชื่อถือ เช่น กรมธุรกิจพลังงาน, กรมการขนส่ง หรือผู้ผลิตและจำหน่ายแก๊ส NGV เช่น ปตท. ซึ่งศูนย์รับติดตั้งแก๊สเหล่านี้จะมีมาตรฐานในการติดตั้งที่มีคุณภาพ และความปลอดภัย ตลอดจนควรจะพิจารณาถึงความยาวนานของธุรกิจ หรือความมั่นคงของธุรกิจ ยิ่งเป็นศูนย์ที่เปิดให้บริการมายาวนาน และมีความมั่นคง มีสาขาที่ลูกค้าสามารถจะเช็คระยะได้ทุกเมื่อ ทุกที่ที่อยู่ใกล้ สิ่งเหล่านี้จะส่งผลถึงการบริการ ซ่อมบำรุงที่ทำได้อย่างต่อเนื่อง ไม่มีการทิ้งงานหรือลูกค้า เหมือนกับอู่ทั่วไปที่สักวันหนึ่งอาจจะต้องปิดตัวลง ดังนั้นการพิจารณาถึงมาตรฐานของศูนย์บริการจึงเป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน

2. เป็นศูนย์ที่ใช้ช่างผู้ชำนาญการและมีประสบการณ์เฉพาะในการติดตั้ง
บางท่านอาจจะคิดว่าสิ่งเหล่านี้ไม่มีความสำคัญ การติดตั้งกับอู่รถยนต์ทั่วๆไปที่ช่างพอจะมีความรู้เกี่ยวกับระบบแก๊สอยู่บ้างก็เพียงพอแล้ว แต่ว่าการเลือกศูนย์ติดตั้งแก๊สโดยช่างผู้ชำนาญการ และมีการฝึกอบรมจากหน่วยของรัฐ หรือกรมฝีมือแรงงาน มีความรู้เฉพาะทางในการติดตั้ง จะส่งผลให้การติดตั้งมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย งานเรียบร้อย และการรับรู้ถึงปัญหาจากการใช้งานได้เป็นอย่างดี และลดความเสี่ยงในการเกิดการรั่วซึม หรือการติดตั้งที่หละหลวม

3. เป็นศูนย์ที่ใช้อุปกรณ์ที่มีมาตรฐาน
การใช้อุปกรณ์ติดตั้งแก๊สที่มีมาตรฐาน และมีความภาพที่ดี จะช่วยให้คุณสบายใจไม่ต้องเปลี่ยนหรือกังวลในขณะที่ใช้งานไปเป็นเวลายาวนาน เพราะอุปกรณ์เหล่านี้นอกจากจะผลิตอย่างมีประสิทธิภาพแล้วยังมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน มีการประกันเครื่องยนต์หรืออุปกรณ์ ควรเลือกใช้อุปกรณ์ที่ได้รับการยอมรับ และใช้งานแพร่หลายไปทั่วโลก อย่างเช่น อุปกรณ์ Romano, สายไฟที่ใช้เชื่อมต่อภายในเครื่องยนต์ก็ควรจะเป็นแบบปลั๊กอิน ซึ่งไม่ต้องการตัดต่อ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยจากกระแสไฟที่อาจจะรั่วไหลได้ หรือแม้กระทั่งถังแก๊ส ก็ควรจะพิจารณาถึงคุณภาพและใช้งานได้ยาวนาน

ติดตามในส่วนที่ 2 ได้ในบทความต่อไป

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่

บริษัท วีอาร์พี เอ็นจิเนียร์ริ่ง
Call Center  1616
หรือ Hotline: 091-575-5204,089-812-6995

การติดตั้งแก๊ส NGV/LPG เป็นทางเลือกที่ดีในยุคน้ำมันแพง

ทำไมถึงต้องเลือกติดตั้งแก๊ส NGV/LPG

เหตุผลที่ควรติดตั้งแก๊ส NGV/ LPG, เนื่องมาจากสภาวะเศรษฐกิจที่ข้าวของมีราคาที่แพงขึ้น รวมถึงราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มว่าจะมีแต่เพิ่มขึ้นๆในทุกปี และในอนาคตประเทศไทยของเราอาจจะมีโอกาสได้ใช้น้ำมันลิตรละ 50 บาท โดยเฉพาะผู้ที่เติมน้ำมันเบนซิน 95 มีสิทธิ์ที่จะได้ใช้น้ำมันราคาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สาเหตุที่ยังมีคนใช้น้ำมันเบนซิน 95 อยู่นั้น เพราะมีความเชื่อว่าอัตราเร่ง หรือขุมพลังของเครื่องยนต์ที่อัดฉีดมาจากเบนซิน 95 นั้นจะมีมากกว่า ประสิทธิภาพดีกว่า หรือเรียกว่า เครื่องไม่อืดนั้นเอง

แต่ว่าปัจจุบันนี้เทคโนโลยีได้มีการพัฒนาไปไกลกว่าเดิม ไม่เว้นแม้กระทั่งเทคโนโลยีด้านพลังงาน และในอนาคตก็จะมีการพัฒนาให้ก้าวไกลไปได้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเทคโนโลยีในการติดตั้งแก๊ส NGV/LPG นั้นในอดีตมักจะไม่พบแพร่หลายมากนักในประเทศไทย และการติดตั้งก็มักจะทำกันเฉพาะกลุ่มหรือผู้ที่มีความรู้ทางด้านช่างยนต์ที่ช่วยกันปรับแต่ง หาอุปกรณ์มาติดตั้งกันเอง

แต่การติดตั้งแก๊สในปัจจุบันนี้ มีการติดตั้งกันอย่างแพร่หลาย รวมทั้งมีผู้บริโภคมากมายเล็งเห็นถึงศักยภาพของก๊าซธรรมชาติ และการผลิตรถยนต์ที่สามารถใช้แก๊ส NGV, CNG, LPG ของค่ายผู้ผลิตรถยนต์ก็มีหลากหลายมากขึ้น ดังนั้นจึงมีการพัฒนาเทคโนโลยี และอุปกรณ์ในการติดตั้งที่ดีและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

 
 

การติดตั้งแก๊ส NGV/LPG ช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายอย่างคาดไม่ถึง

จากข้อมูลและการทดสอบในระยะ 100,000 กิโลเมตร ของศูนย์ติดตั้งแก๊สมาตรฐาน VRP ได้พบว่า รถยนต์ที่ติดตั้ง NGV 5 ถัง จะสามารถบรรจุก๊าซได้ถึง 58 กิโลกรัม และสามารถวิ่งได้ไกลประมาณ 600 กิโลเมตร ในกรณีที่บรรทุกสัมภาระ สามารถวิ่งได้ไกลประมาณ 500 กิโลเมตร
ในกรณีรถที่ติดตั้งแก๊ส NGV 3 ถัง สามารถบรรจุก๊าซได้ 42 กิโลกรัม คุณจะสามารถวิ่งได้ไกลประมาณ 420 กิโลเมตร คุณเติมก๊าซ NGV 42 กิโลกรัม ด้วยเงินประมาณ 440 บาท เมื่อเปรียบเทียบกับราคาน้ำมันในปัจจุบันแล้ว คงเป็นไปไม่ได้ที่คุณจะเติมน้ำมัน 440 บาทเพียงเพื่อให้สามารถวิ่งไปได้ในระยะทาง 420 กิโลเมตร ดูตารางเพิ่มเติมที่นี่

และปัจจัยสำคัญในปัจจุบันนี้ การจราจรที่ติดขัดมาก เราจะต้องใช้เวลานานมากขึ้นบนท้องถนน การสิ้นเปลืองน้ำมันก็จะเพิ่มมากขึ้นเป็นเงาตามตัว ดังนั้นการหันมาพิจารณาติดตั้งแก๊ส NGV/LPG เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายที่เราไม่ควรจะสิ้นเปลืองไปกับราคาน้ำมันในปัจจุบันนี้ เป็นสิ่งที่น่าสนใจมากขึ้น

สนใจหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

บริษัท วีอาร์พี เอ็นจิเนียร์ริ่ง แอนด์ เทรดดิ้ง จำกัด
http://www.vrp-engineering.co.th
Call Center  1616
หรือ Hotline: 091-575-5204,089-812-6995