ความปลอดภัยของรถยนต์ติดตั้งแก๊ส NGV/LPG

ติดตั้งแก๊สรถยนต์แล้วจะปลอดภัยหรือไม่

ความปลอดภัยสำหรับรถยนต์ติดตั้งแก๊ส เป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ใช้รถมักจะคำนึงถึงเป็นเรื่องแรกเมื่อคิดถึงรถติดแก๊ส หรือคิดจะนำรถไปติดแก๊ส เพราะว่าหากติดตั้งไม่มี ก็เปรียบเสมือนเรานำระเบิดขนาดใหญ่ติดตัวไปด้วยทุกเวลา และทุกสถานที่เลยทีเดียว

ดังนั้นผู้ใช้รถที่คิดจะติดตั้งแก๊สจึงจะตั้งคำถามนี้ก่อนเสมอว่า รถติดแก๊สจะปลอดภัยหรือไม่ ใช้ไปแล้วจะเกิดไฟไหม้ หรือระเบิดเหมือนในข่าวหรือไม่ ในปัจจุบันนี้การติดตั้งแก๊สมีการพัฒนาไปมากแล้ว มีการนำอุปกรณ์ต่างๆมาควบคุมการเกิดการรั่วไหล หรือแม้กระทั่งมีการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารมากขึ้นจนทำให้ผู้ใช้รถเกิดความมั่นใจ และเชื่อมั่นในคุณภาพอุปกรณ์มากขึ้น อีกอย่างในปัจจุบันนี้จำนวนรถยนต์ติดตั้งแก๊ส มีปริมาณมากขึ้นทุกๆวัน เนื่องจากว่าราคาน้ำมันมีราคาแพงมากขึ้น การติดตั้งแก๊สจึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยให้ประหยัดค่าเชื้อเพลิงอย่างน้อย 50 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไปเลยทีเดียว

ความปลอดภัยของรถยนต์ติดตั้งแก๊สควรจะพิจารณาจากเรื่องใด

การพิจารณาว่า รถยนต์ติดตั้งแก๊สจะมีความปลอดภัยหรือไม่นั้น มีหลักพิจารณาได้ดังนี้คือ

1.    ศูนย์ที่ติดตั้งแก๊ส จะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยในขณะการติดตั้ง ในกรณีนี้ ศูนย์ติดตั้งแก๊ส VRP ได้ให้ความสำคัญมาก เรามีการควบคุมคุณภาพความปลอดภัยเชิงป้องกัน 5 ขั้นตอน

2.    ช่างของศูนย์ติดตั้ง จะต้องได้รับการฝึกอบรมจากกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน นอกจากนี้ ช่างเทคนิคของ VRP จะต้องผ่านอบรมหลักสูตรการปฏิบัติงานติดตั้งเชิงป้องกันจาก VRP ด้วย

3.    อุปกรณ์ที่ใช้ในการติดตั้งจะต้องผ่านมาตรฐาน และมีคุณภาพ ซึ่งศูนย์ติดตั้ง VRP ใช้อุปกรณ์ติดตั้งแก๊สจาก Romano ผลิตจากประเทศอิตาลี ได้รับมาตรฐาน ECER 110R และ ECER67R และแบ่งเป็นอุปกรณ์สำคัญดังต่อไปนี้

• หัวฉีดแก๊ส แบบ Single Fiber แห่งเดียวของประเทศ ที่ให้การตอบสนองต่อการสั่งจ่ายเชื้อเพลิงอย่างรวดเร็วและสม่ำเสมอ ไม่สะสมความร้อนจึงปลอดภัยสูง
• Fiting แบบ Double Lock ปลอดภัยไร้รอยรั่วของแก๊สได้ 100%
• ระบบสายไฟแบบ plug-in ให้การเชื่อมต่อแบบไร้รอยต่อ ป้องกันอันตรายจากประกายไฟ ป้องกันการลัดวงจร

เมื่อติดตั้งแก๊สไปแล้วควรปฏิบัติอย่างไร เพื่อป้องกันมิให้รถยนต์เกิดความสึกหรอและมีความปลอดภัยสูงสุดเสมอ

1.       ผู้ใช้รถยนต์ จะต้องนำรถเข้าตรวจสอบระยะทุก 10,000 กม หรือ ทุกๆ 3 เดือน ตามคู่มือของศูนย์

2.       จะต้องนำรถเข้าตรวจวาล์ว ไอดี/ไอเสีย เมื่อมีการใช้งานไปกว่า 50,000-80,000 กม.

3.       ผู้ใช้รถยนต์จะต้องใช้หัวเทียนที่ออกแบบมาให้ใช้กับรถยนต์ติดตั้งแก๊ส NGV/LPG โดยเฉพาะ และควรเปลี่ยนทุกๆ 20,000 กม.

4.       ผู้ใช้รถยนต์ควรตรวจสอบและทำความสะอาดกรองอากาศให้สะอาดอยู่เสมอ และควรเปลี่ยนทุกๆ 10,000 กม.

5.       ผู้ใช้รถยนต์ควรตรวจสอบวาล์วน้ำทุกๆ 100,000 กม.

6.       ให้ผู้ใช้รถควรตรวจสอบระบบไฟฟ้า และ คอมเพรสเซอร์ แอร์ให้อยู่ในสภาพปกติ

7.       ควรเปลี่ยนระบบท่อยางระบบน้ำ/ก๊าซ ทุกๆ 100,000 หรือ ทุกๆ 5 ปี ทั้งนี้เพื่อป้องกันมิให้เกิดการบกพร่องของระบบเชื้อเพลิง

ดังนั้นการติดตั้งแก๊สจึงไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวหรือกังวลอีกต่อไป จากผู้ใช้ได้พิจารณาและค้นหาข้อมูลอย่างเพียงพอแล้วผู้ใช้จะทราบว่า รถยนต์ติดตั้งแก๊ส ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ และหากมีการติดตั้งอย่างมีคุณภาพ โดยช่างเทคนิคที่มีความรู้ทางด้านระบบติดตั้งแก๊สโดยเฉพาะ ใช้อุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน พร้อมกับการบริการหลังการติดตั้งแล้ว การใช้รถยนต์ติดตั้งแก๊สจะช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายจากค่าน้ำมันที่นับวันจะมีราคาพุ่งสูงขึ้นได้เป็นอย่างดี

 

จะเลือกถังแก๊สแบบไหนดีระหว่าง ถังโดนัทกับถังแคปซูล

อุปกรณ์ติดตั้งแก๊ส: ถังโดนัท และ ถังแคปซูล

ถังโดนัท กับ ถังแคปซูล มีข้อดีและข้อเสียอย่างไรบ้าง

ในเรื่องของความแตกต่างกันระหว่างถังโดนัทกับถังแคปซูลนั้น หากพิจารณาตั้งแต่แรกเริ่มที่เห็นเลยก็คือ แตกต่างกันทางด้านรูปร่าง ซึ่งตรงนี้ทุกท่านคงจะรู้ดีและไม่ได้อยากจะนำเรื่องนี้มาเป็นประเด็นสำคัญ สิ่งที่อยากจะรู้จริงๆนั้นคือคุณประโยชน์ทางด้านการใช้งานระหว่างถังทั้งสองชนิดนี้มันมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันอย่างไรบ้าง

ข้อดีของถังแคปซูลสำหรับจะติดตั้งกับรถ

1.       จะมีขนาดใหญ่กว่าถังโดนัท สามารถบรรจุแก๊สได้มากกว่า ทำให้ไม่ต้องเติมแก๊สบ่อยๆ

2.       ถังแคปซูล จะมีราคาที่ถูกกว่า ถังโดนัท ถึง 3-4 พัน

3.       ไม่สูญเสียพื้นที่เก็บยางอะไหล่

ในส่วนของข้อเสียของถังแก๊สแบบแคปซูบนั้น

1.     จะทำให้เสียพื้นที่ด้านหลัง ที่ใช้เป็นที่เก็บสัมภาระ

2.     นำหนักจะมากกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับการติดตั้งแบบถังโดนัท

ในส่วนของถังโดนัท

ถังโดนัทจะเป็นถังแก๊สแบบมัลติวาล์วชนิดหนึ่ง เป็นถังที่มีรูปทรงเหมือนขนมโดนัท สามารถวางแทนยางอะไหล่และมีน้ำหนักพอๆกับยางอะไหล่ ตัวถังมีน้ำหนักประมาณ 15-25 กิโล ในเรื่องของความปลอดภัยถังโดนัทมีความหนาประมาณ 3.20 - 3.30 มม. ซึ่งมีความหนามากว่าถังแคปซูล ซึ่งหนาเพียง 2.40 - 2.50 มม.

ข้อดีของถังโดนัทคือ

1.     จะเข้าไปแทนในส่วนเนื้อที่ยางล้ออะไหล่

2.      ได้ในเรื่องของความสวยงามและพื้นที่ใช้สอย พื้นที่ด้านหลังจะยังมีอยู่เท่าเดิม

ข้อเสียของถังโดนัท

1.     ระยะมาตรฐานจากตัวถังถึงกันชน อาจจะไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด (20 ซม.) เมื่อเกิดการชนตัวถังอาจจะไม่เป็นไร แต่จะส่งผลต่อระบบอื่นเช่น สายหรือท่ออื่นๆ

2.     สามารถติดตั้งได้ในขนาดที่เล็กทำให้บรรจุแก๊สได้น้อยกว่า

3.     การยึดถังกับตัวรถ (สำหรับติดใต้ท้อง) ศูนย์ติดตั้งต้องดัดแปลงเรื่องคานรับถัง

4.     ราคาแพงกว่าถังแบบแคปซูลแน่นอน

การที่เราเลือกติดแก๊สถังโดนัท เท่ากับเราเสียโอกาสที่จะเก็บยางอะไหล่ไว้เผื่อฉุกเฉิน แต่มันก็ไม่ยากเลย ถ้าเกิดจะเดินทางไปไหนไกลๆก็เอายางอะไหล่ใส่ท้ายไปด้วย ถ้าไม่ได้ใช้กลับมาเราก็ยกออกเพียงเท่านี้ก็เราก็สามารถเดินทางไปต่างจังหวัดโดยไม่ต้องห่วงหน้าพะวงอีกแล้ว

ขอควรปฏิบัติเมื่อรถยนต์ติดแก๊สเกิดรั่วไหล

การแก้ไขปัญหาเบื้องต้น เมื่อรถยนต์ติดแก๊สรั่วไหล

เมื่อรถยนต์ติดแก๊สที่คุณขับอยู่เกิดการรั่วไหลขึ้นมา สิ่งที่ควรปฏิบัติคือ มีสติ เพราะอย่างน้อยเมื่อแก๊สรั่ว มันจะยังไม่เกิดระเบิดทันที หากไม่มีปัจจัยก่อให้เกิดประกายไฟ หรือแรงอัดที่เหมาะสม สำหรับแก๊ส LPG นั้น มีสภาพที่มีมวลหนักกว่าอากาศ ดังนั้นจะลอยต่ำอยู่เหนือพื้น โอกาสที่จะระเบิดเลยนั้น จะไม่มี หากไม่เกิดอุบัติเหตุจนเกิดประกายไฟจน (ในกรณีเดียวกันหากมีการชนที่แรงมากๆไม่ว่าจะเป็นน้ำมันหรือแก๊สชนิดอื่นนอกจาก LPG ก็จะเกิดโอกาสระเบิดเช่นกัน)

ในส่วนของแก๊ส NGV จะมีมวลเบากว่าอากาศ เมื่อรั่วแล้วจะลอยขึ้นสู่อากาศ ขึ้นท้องฟ้าไปเลย จะยังไม่ระเบิดทันทีเช่นกัน ดังนั้นคุณจึงมีเวลาที่จะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น

การแก้ปัญหาเมื่อแก๊สรั่ว

1.       ปิดสวิตซ์ระบบแก๊สก่อน ทั้งนี้เพื่อตัดการทำงานของระบบแก๊สออกไปก่อน และหากรถของคุณเป็นระบบ หัวฉีดรุ่นใหม่ จะมีระบบตัดแก๊สอัตโนมัติเมื่อมีแก๊สรั่ว เนื่องจากแรงดันของแก๊สได้เปลี่ยนแปลงกะทันหัน  จะมี วาล์วเช็คแรงดัน เมื่อผิดปกติก็จะสั่งตัดทันที  แต่ถ้ารถของคุณยังเป็นระบบเก่าอยู่ จะยังไม่มีระบบนี้คอยช่วยเช็ค ดังนั้นเมื่อเกิดการรั่วไหล คุณจะต้องเป็นคนกดสวิตซ์นี้

2.       หาที่จอดรถที่ปลอดภัย และปิดวาล์วแก๊ส เมื่อคุณทำการปิดสวิตซ์ระบบแก๊สแล้ว แต่ยังคงได้กลิ่นแก๊สอยู่ ขั้นตอนต่อไปควรหาที่โล่งแจ้ง และไม่กีดขว้างทางจราจร จอดรถ และ ปิดวาล์วแก๊ส  นอกจากนี้ควรเปิดฝากระโปรงรถ และพยายามหาที่มาของกลิ่น

·         ถ้ากลิ่นมาจาก ห้องเครื่อง ส่วนใหญ่จะเป็นการรั่วไหลของข้อต่อต่างๆ ได้แก่ สายแก๊ส หัวฉีดแก๊ส

·         ถ้ากลิ่นมาจาก ด้านหลังของรถ ส่วนใหญ่จะเป็นสายเติม สายแก๊สที่เดินไปตามตัวรถด้านหลัง อาจจะเกิดการแตกหัก หรือวาล์วที่หัวเติมเกิดชำรุด ปิด-เปิดไม่สนิท

สำหรับมือใหม่ หรือผู้หญิง ที่ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร สิ่งที่ควรระลึกไว้เสมอนั้นคือ การปิดวาล์วแก๊ส แล้ว วาล์วแก๊สอยู่ตรงไหนล่ะ? วาล์วแก๊สจะอยู่ตรงถังแก๊ส ลักษณะจะเหมือนลูกบิด หรือ ก๊อกน้ำ ให้ปิดตามเข็มนาฬิกา หรือไปทางขวามือ แต่ถังแก๊สบางรุ่นมีมัลติวาล์วที่จะปิดวาล์วโดยอัตโนมัติเมื่อปิดสวิตซ์กุญแจเครื่องยนต์

หลังจากก็โทรไปที่ศูนย์ติดตั้งแก๊สที่คุณไปติดตั้ง และสอบถามข้อมูลต่อไป

ECU Romano อุปกรณ์สำคัญในการติดตั้งแก๊ส LPG และ NGV

ในการติดตั้งแก๊ส LPG NGV ในรถยนต์ กล่องสมองกล หรือ ECU เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญนอกจากหัวฉีด

ปัจจุบันนี้การติดตั้งแก๊ส LPG และ NGV เป็นที่นิยมและแพร่หลายไปตามส่วนต่างๆของภูมิภาคในประเทศไทยมากขึ้น จะสังเกตเห็นว่ามีผู้นำเข้าอุปกรณ์ติดตั้งแก๊สมากหลายราย และมีการแข่งขันโฆษณากันมากขึ้นเพื่อแย่งส่วนแบ่งทางการตลาด

อุปกรณ์ที่ผู้นำเข้า หรือแม้กระทั่งช่างตามอู่มักจะให้ความสำคัญกับคุณภาพของหัวฉีด แต่มีอุปกรณ์อีกชิ้นที่มีความสำคัญไม่ต่างกันนั้นก็คือ กล่องสมองกลหรือ กล่อง ECU หากเป็นกล่องที่ศูนย์ VRP เลือกใช้ คือกล่อง ECU จาก Romano ซึ่งผลิตจากอิตาลีประเทศต้นแบบในการใช้ยานยนต์ใช้ก๊าซธรรมชาติ วัสดุผลิตมาจากไฟเบอร์ ตามมาตรฐาน ECE R110/R67/R010 ทำหน้าที่สำคัญในการควบคุมการกระจายเชื้อเพลิงก๊าซให้กับเครื่องยนต์ โดยการทำงานจะทำตามคำสั่งจากโปรแกรมมาตรฐานระดับโลก AEB ที่นำสัญญาน Term/Trim ที่อยู่ใน ระบบ มาอ้างอิงในการจ่ายก๊าซ เป็นตัวที่จะพยายามจ่ายก๊าซให้เหมือนน้ำมันให้มากที่สุด ตามมาตรฐาน OBD II นั้นคือ OBD II ย่อมาจาก On Board Diagnostics Generation II เป็นมาตรฐานที่ถูกกำหนดร่วมกันโดย SAE ซึ่งย่อมาจาก Society Of Automotive Engineering หมายถึงสมาคมวิศวกรยานยนต์ เป็นสมาคมที่ทำหน้าที่ค้นคว้าวิจัย และวางกฏเกณฑ์มาตรฐานต่างๆเกี่ยวกับรถยนต์ของสหรัฐอเมริกา

นอกจากนี้ยังเกี่ยวข้องกับ ISO หรือ International Organization for Standardization เรียกอีกอย่างก็คือ องค์การมาตรฐานสากล หรือองค์การระหว่างประเทศว่าด้วยการมาตรฐาน ซึ่งเป็นองค์กรที่ออกมาตรฐานต่างๆที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจและอุตสาหกรรม โดยกำหนดมาตรฐานวิธีการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางดิจิตอลระหว่างระบบคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้งบนรถยนต์ ที่เกี่ยวข้องกับการปล่อยไอเสีย กับเครื่องสแกนข้อมูล OBD-II ทั้งด้าน ฮาร์ดแวร์ ซอฟท์แวร์ ตำแหน่งการติดตั้ง รหัสบันทึกความบกพร่องที่ตรวจพบ โดยมีผลบังคับใช้สำหรับรถยนต์ที่จำหน่ายในอเมริกาตั้งแต่รุ่นปี 1996 เป็นต้นมา

ข้อมูลที่อ่านจากระบบจะบอกให้ทราบถึงสถานะของส่วนต่างๆที่เกี่ยวข้องกับควบคุมเครื่องยนต์เกือบทั้งหมด รวมทั้งระบบ ECU ต่อร่วมกันหลายตัวในรถยนต์คันเดียวกันเป็นเน็ตเวิร์ค เช่นบอดี้คอนโทรล แชสซิสคอนโทรลพร้อมกับเทคนิคการปรับจูนอัตโนมัติ ทำหน้าที่คัดลอกการทำงานในระบบน้ำมัน มาปรับใช้กับการทำงานในระบบก๊าซ ให้เหมาะสมกับจุดระเบิดในทุกๆจังหวะ ของจำนวนรอบของเครื่องยนต์อย่างมีประสิทธิภาพที่ต่อเนื่อง เพื่อเป็นการรักษาระบบรถยนต์ไม่ให้เกิดการสึกหรอก่อนอายุการใช้งาน

เครื่องยนต์ต้องมีคุณสมบัติดังนี้ ก่อนระบบจะเริ่มเปลี่ยนการใช้เชื้อเพลิงก๊าซ
1. อุณหภูมิ เครื่องยนต์อยู่ที่ 50 องศา
2. ความเร็วของรถยนต์ อยู่ที่ 1,600 รอบ/นาที
3. ความหน่วงเวลาจากความเร็ว 25 วินาที

VRP Engineering ศูนย์ติดตั้งแก๊สรถยนต์มาตรสูงตามหลักวิศวกรรม ผู้นำในการติดตั้งระบบแก๊สที่แท้จริง

คิดจะติดตั้งแก๊สรถยนต์ ที่ได้มาตรฐาน ช่างเทคนิคเฉพาะด้าน คิดถึง VRP Engineering

การตลาดสำหรับการติดตั้งแก๊สยังมีการเข้าใจผิดกันอยู่มาก กับการโฆษณาขายอุปกรณ์ติดตั้งแก๊สหรือการเป็นผู้นำเข้าอุปกรณ์เข้ามาขายในประเทศไทย กับศูนย์ที่ติดตั้งแก๊สครบวงจรซึ่งจะต้องมีอุปกรณ์ติดตั้งแก๊สอยู่ในระบบติดตั้งแก๊สอยู่ในตัวอยู่แล้ว จึงทำให้ผู้ใช้เข้าใจผิดว่า การโฆษณาอุปกรณ์ติดตั้งแก๊สต่างๆที่พบเห็นกันทุกวันนี้คือ การติดตั้งระบบแก๊สที่แท้จริง แต่ผู้ใช้ไม่รู้ว่า นั้นคือการนำเข้าอุปกรณ์มาขายตามอู่รถยนต์เท่านั้ อาจจะมีการอบรมช่างบ้าง หรือบางอู่อาจจะบอกว่าช่างของตนมีความรู้ การรับประกันจึงรับประกันเพียงตัวอุปกรณ์เท่านั้น ไม่ได้รับประกันทั้งระบบ หรือ การติดตั้งด้วย

ดังนั้นปัญหาที่เกิดขึ้นกับผู้นำรถยนต์ไปติดตั้งแก๊สคือ ปัญหาการติดตั้งจากช่างที่ไม่เชี่ยวชาญ หรือไม่ได้รับอบรมโดยตรงเกี่ยวกับระบบแก๊ส รู้แค่ขั้นตอนการติดตั้งเท่านั้น การวิธิการปฏิบัติในการติดตั้ง ก็อาจจะแตกต่างกันไปตามความรู้และประสบการณ์ของช่างแต่ละคน และถ้าผู้ใช้ต้องการให้ผู้นำเข้าอุปกรณ์รับผิดชอบ พวกเขาก็จะรับผิดชอบเพียงอุปกรณ์เท่านั้น ผู้ใช้จะต้องไปไล่บี้กับอู่นั้นๆที่รับอุปกรณ์ไปติดตั้งอีกทีหนึ่ง
 

ผู้ใช้รถควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับระบบแก๊ส ก่อนที่จะติดตั้งแก๊ส

ก่อนที่จะนำรถติดตั้งแก๊ส ผู้ใช้ควรจะทำความเข้าใจกับการติดตั้งแก๊สให้ถ่องแท้เสียก่อน เพราะนอกจากจะต้องเลือกพิจารณาชนิดของแก๊สที่จะติดตั้งแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเลือกศูนย์บริการ ติดตั้งแก๊ส ไม่ใช่การเลือกซื้ออุปกรณ์เพื่อให้อู่ไหนๆติดตั้งก็ได้ เพราะอุปกรณ์จะมีราคาแพง มีคุณภาพสูง ผ่านการวัดมาตรฐานจากสถาบันใดๆมาก่อน แต่ถ้าจะต้องติดตั้งโดยช่างที่ไม่ชำนาญ เป็นช่างพื้นฐานทั่วไป และการติดตั้งก็ไม่ได้มีมาตรควบคุมแต่อย่างใด เมื่อติดตั้งเสร็จหากมีปัญหาก็จะต้องนำรถกลับมาที่อู่นั้นๆเพื่อ ซ่อมอีกครั้ง หรือต้องเสียเวลานำรถเข้าศูนย์ใหญ่ของผู้ขายอุปกรณ์ติดตั้งแก๊สยี่ห้อนั้นๆ เสียทั้งความรู้สึก และเสียทั้งเวลา
 

ในความเป็นจริงแล้ว การติดตั้งแก๊สรถยนต์ จะต้องติดตั้งโดยศูนย์ติดตั้งระบบแก๊สโดยเฉพาะ

การติดตั้งแก๊สไม่ใช่การวัดดวง แต่จะต้องมีมาตรฐานตั้งแต่ก่อนติดตั้ง ระหว่างการติดตั้ง และต้องทดสอบหลังการติดตั้ง ทุกขั้นตอนจะมีมาตรฐาน และอุปกรณ์ติดตั้งแก๊สก็คือหนึ่งในมาตรฐานในการติดตั้งระบบแก๊ส ไม่ใช่การโฆษณาขายอุปกรณ์เป็นทั้งระบบการติดตั้ง

ศูนย์ติดตั้งแก๊ส VRP Engineering เรามุ่งเน้นถึงมาตรฐานการติดตั้งเสมอมา ระบบการติดตั้งแก๊สที่ผ่านจากศูนย์ของ VRP จะต้องผ่านมาตรฐานทางวิศวกรรมทั้ง 7 ประการ ได้แก่

1. VRP เป็นศูนย์ติดตั้งแก๊สรถยนต์มาตรฐานดีเยี่ยมแห่งแรกของประเทศ ได้รับการับรองจาก 3 หน่วยงานได้แก่ กระทรวงพลังงาน, กรมการขนส่ง และบริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) ปัจจุบัน VRP ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นศูนย์ติดตั้ง NGV LPG ให้กับตัวแทนจำหน่ายรถยนต์โตโยต้า 56 จังหวัดกว่า 250 โชว์รูมทั่วประเทศ

2. มาตรฐานบุคลากร VRP มีสถาบันฝึกอบรมช่างเทคนิค NGV LPG ร่วมกับสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานเพื่อผลิตช่างเทคนิคที่มีคุณภาพ ซึ่งอู่ทั่วไปจะไม่มีการอบรมและควบคุมคุณภาพของช่าง จึงมีความเสี่ยงสูงภายหลังการติดตั้งไปแล้ว

3. อุปกรณ์มาตรฐานสูง Romano จากอิตาลีที่ใช้ทั่วโลกมานานกว่า 30 ปี และในประเทศไทย 8 ปี ข้อดีคือ

· มีเทคโนโลยี Advance Auto Mode แห่งแรก และแห่งเดียวของประเทศ ปรับจูนการจ่ายก๊าซแบบอัตโนมัติตามค่ามาตรฐานของน้ำมัน ทำให้แรงม้า/แรงบิดเทียบเท่าน้ำมัน

· พร้อมหัวฉีดแบบ Single ติดตั้งโดยตรงที่ท่อไอดี ทำให้จ่ายก๊าซได้อย่างรวดเร็ว ตอบสนองดีกว่า ซึ่งที่อื่นจะเป็นหัวฉีดแบบราง

· รวมถึง Fitting แบบ Double Lock ป้องกันรั่วซึมได้ 100% จึงมีความปลอดภัยสูงสุด

· สายไฟเป็นแบบ Plug-in ไร้การเชื่อมต่อ ในขณะที่อู่ทั่วไปเป็นแบบเชื่อมต่อ ทำให้อันตรายกว่าเมื่อเกิดประกายไฟ

4. VRP มีมาตรฐานตรวจสอบและคุณภาพเชิงป้องกัน 5 ขั้นตอน ตั้งแต่กระบวนการตรวจสอบรถยนต์ก่อนการติดตั้ง, การตรวจสอบระหว่างการติดตั้ง, การตรวจสอบหลังการติดตั้ง, การตรวจสอบประสิทธิภาพด้วยเครื่องมือพิเศษ และการตรวจสอบรถยนต์ก่อนส่งมอบรถ เพื่อประกันคุณภาพรถ NGV-LPG ให้มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงสุด

5. มาตรฐานการป้องกันความเสียหาย ศูนย์ VRP มีระบบติดตั้งเชิงป้องกัน โดยการวิเคราะห์ความเสี่ยงและจัดทำมาตรการการติดตั้งและควบคุมเชิงป้องกัน, ออกแบบเทคโนโลยีระบบป้องกันเครื่องยนต์เสียหาย (Pre-Safe/Attention Assist) ที่เป็นเทคโนโลยีช่วยเตือนและปกป้องเครื่องยนต์ไม่ให้เสียหายจากความร้อนที่เกินพิกัด

6. มาตรฐานการบริการเช็คระยะและบำรุงรักษาหลังการติดตั้ง – ศูนย์ VRP มีระบบเครือข่ายซ่อมบำรุงโดยช่างเทคนิค VRP เพื่อบริการซ่อมบำรุงทั่วทุกภูมิภาค มีบริการ On Site Service/ On Site at Home

7. มาตรฐานความปลอดภัย ความคงทนของอุปกรณ์และเครื่องยนต์ – ศูนย์ VRP มีการทดสอบจริงที่ 100,000 กม. เครื่องยนต์ และอุปกรณ์ไม่เกิดเสียหาย

รถทุกคันที่ติดตั้งจากศูนย์ VRP จะได้รับการดูแล มีผ้าคลุมปกป้องรอยเปื้อน

จากมาตรฐานข้างบนจะเห็นได้ว่า อุปกรณ์ติดตั้งแก๊สนั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการติดตั้งแก๊สเท่านั้น ระบบแก๊สที่ดีควรจะมีมาตรฐานทางวิศวกรรมครบถ้วน ทั้งการควบคุมคุณภาพการติดตั้ง และบริการหลักการติดตั้งก็เป็นสิ่งที่จะต้องให้ความสำคัญด้วยเช่นกัน

เมื่อผู้ใช้รถยนต์สนใจที่ติดตั้งระบบแก๊สกับศูนย์ติดตั้งระบบแก๊สรถยนต์ VRP เพียงโทรมาสอบถามรายละเอียด และเลือกเข้ารับบริการการติดตั้งได้ที่ศูนย์โตโยต้าใกล้บ้านท่าน โดยจะมีช่างเทคนิคอยู่ประจำที่ศูนย์นั้นๆ และหลังการติดตั้งไปแล้วคุณสามารถนำรถไปตรวจเช็คระยะ หรือระบบแก๊สได้ที่ศูนย์โตโยต้าทั้ง 40 จังหวัด 250 แห่งทั่วประเทศ ภายใต้มาตรฐานเดียวกันกับศูนย์บริการใหญ่ ทุกขั้นตอนจะต้องปฏิบัติและติดตั้งตามมาตรฐานของ VRP ได้กำหนดไว้ทุกประการ โดยที่ท่านไม่จำเป็นต้องเสียเวลานำรถมาที่สำนักงานใหญ่

สอบถามรายละเอียดได้ที่

VRP Call Center: 1616
Hotline: 091-575-5204, 089-812-6995
www.vrp-engineering.co.th

มาตรฐานและประสิทธิภาพของอุปกรณ์ติดตั้งระบะแก๊ส NGV/LPG จาก ROMANO

จุดแข็งของประสิทธิภาพอุปกรณ์ติดตั้งแก๊ส NGV/LPG ยี่ห้อ Romano

Romano เป็นหนึ่งในผู้ผลิตอุปกรณ์ติดตั้งแก๊สระดับโลก จากประเทศอิตาลี หัวฉีดแก๊สของ Romano ได้รับการยอมรับในคุณภาพและมาตรฐานในอังกฤษ และมีชื่อเสียงอย่างมากในทวีปยุโรป และใช้งานมาแล้วทั่วโลกกว่า 30 ปี และนำมาใช้งานในประเทศไทยได้กว่า 8 ปี อาจจะเรียกได้ว่าเป็นคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อกับหัวฉีดแก๊สที่ผลิตจากเยอรมันถึงแม้จะมีคุณภาพสูงแต่ก็ยังคงแพงกว่า Romano

ข้อดีของอุปกรณ์ติดตั้งระบบแก๊สจาก Romano คือ

1.       มีความเร็วในการฉีดก๊าซที่ดีกว่าทุกยี่ห้อ

·         เนื่องจากหัวฉีดก๊าซจาก Romano เป็นหัวฉีดก๊าซแบบหัวเดียวอิสระ (Single Injector) ซึ่งเป็นการติดตั้งหัวฉีดก๊าซใก้ลกับท่อไอดีของรถยนต์ให้มากที่สุด เป็นผลให้เวลาในการฉีดก๊าซเข้าห้องเครื่องยนต์ ทำได้รวดเร็วกว่าหัวฉีดทุกชนิด ซึ่งทำให้รถยนต์มีอัตราการตอบสนองต่อการขับขี่ดีที่สุด

·         เนื่องจากหัวฉีดก๊าซ Romano มีกลไกการทำงานเป็นแบบลิ้น (Valves Injection) หัวฉีดทั่วๆไปเป็นแบบเข็ม ทำให้การฉีดก๊าซมีประสิทธิภาพในการตอบสนองต่อการขับขี่ดีที่สุด

·         และวัสดุที่ใช้หุ้มหัวฉีดก๊าซ Romano เป็นแบบไฟเบอร์ จึงทำให้ไม่เกิดการสะสมความร้อนบริเวณหัวฉีด ทำให้หัวฉีดมีอายุการใช้งานนานกว่าหัวฉีดทุกชนิด

2.       ปริมาณการฉีดก๊าซเหมาะสม / เพียงพอทุกรอบสภาวะการใช้งาน (All RPM& Various Load Automatic)

·         ด้วยเทคนิคโปรแกรมการปรับจูนเพียงแห่งเดียวของประเทศด้วย การใช้ค่า Input ของรถยนต์จาก OBD ร่วมกับ Automatic Scan Tool เพื่อปรับค่าส่วนผสมก๊าซกับอากาศเหมาะสมในทุกๆรอบเครื่องยนต์ และทุกๆสถานะ Load ของเครื่องยนต์ที่อัตราส่วน 14.7:1 จึงทำให้รถยนต์มีค่าแรงบิด(Torque) และแรงม้า (Hose Power) ใกล้เคียงกับน้ำมันมากที่สุด โดยกล่องสมองกล (ECU) ของระบบก๊าซจะสั่งก๊าซในเวลาที่เหมาะสมในทุกๆรอบและทุกๆสภาวะ Load ของเครื่องยนต์ (Injection Timing)

ประสิทธิภาพและประสิทธิผลของเครื่องยนต์ระบบ NGV/LPG ของ Romano จึงเป็นยี่ห้อเดียวที่มั่นใจได้

มั่นใจเต็ม 100% ได้ว่า ในทุกๆความเร็วรอบและ Load ของเครื่องยนต์จะได้ค่า Torque (แรงบิด) และแรงม้าสูงสุด ซึ่งสามารถดูได้จากค่าการทดสอบประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ และ ค่า Short Term ในทุกๆรอบซึ่งดูได้จาก Automatic Scan Tool ซึ่งเป็นเทคนิคการปรับจูนเพียงแห่งเดียวของประเทศไทย

มาตรฐานอุปกรณ์ติดตั้งแก๊ส NGV/LPG ที่ศูนย์ติดตั้งแก๊ส VRP Engineering เลือกใช้

·         ถังบรรจุก๊าซ      ผ่านมาตรฐาน ISO 11439

·         วาล์วถังบรรจุก๊าซและอุปกรณ์ระบายความดัน   ผ่านมาตรฐาน ISO 15500

·         มาตรวัดแรงดัน          ผ่านมาตรฐาน ECE R110

·         ท่อแรงดันสูง              ผ่านมาตรฐาน ECE R110

·         อุปกรณ์ต่อท่อแรงดันสูง    ผ่านมาตรฐาน ECE R110

·         วาล์วเปิด – ปิด ถังก๊าซ      ผ่านมาตรฐาน ECE R110

·         หัวเติมก๊าซ                 ผ่านมาตรฐาน NGV1-P30, ECE R110

·         วาล์วป้องกันการไหลกลับที่หัวเติมก๊าซ      ผ่านมาตรฐาน ECE R110

·         วาล์วโซลินอยล์ความดันสูง       ผ่านมาตรฐาน ECE R110

·         อุปกรณ์ลดแรงดัน         ผ่านมาตรฐาน ECE R110

·         กรองก๊าซ                 ผ่านมาตรฐาน ECE R110

·         วาล์วตัดอัตโนมัติ เมื่อเครื่องยนต์หยุดทำงาน    ผ่านมาตรฐาน ECE R110

·         สวิตซ์เลือกเชื้อเพลิง      ผ่านมาตรฐาน ECE R110

·         อุปกรณ์ฉีดก๊าซ       อุปกรณ์จาก Romano

มาตรฐานความปลอดภัยของ VRP Engineer

·         มีระบบ Attenion Assist ช่วยเตือนเมื่อระบะหล่อเย็นของรถยนต์มีปัญหา เพื่อป้องกันความเสียหายกับตัวเครื่องยนต์

·         วาล์วนิรภัยที่หัวถังป้องกันแรงดันและความร้อนเกินกำหนด

·         เมื่อท่อแก๊สขาดระบบนิรภัยจะตัดเข้าสู่การใช้น้ำมันโดยอัตโนมัติ

·         ท่อสแตนเลส และข้อต่อ (Fitting) แบบ Double Lock ป้องกันการรั่วซึมของแก๊ส 100%

·         ระบบสายไฟแบบปลั๊กอินไม่มีรอยเชื่อม ไม่ทำให้เกิดประกายไฟ ให้ความปลอดภัยสูงสุด